
โรงเรียนเยาววิทย์
โปรเจคของเรา


แนวคิดและกระบวนการคัดเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อพัฒนา
การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายเพื่อคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพสูงสุดสำหรับการพัฒนาต่อยอด ทั้งในด้านคุณภาพ ความสวยงาม และความสามารถในการสร้างรายได้ กระบวนการนี้ประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้

การจัดทำบัญชีรายการผลิตภัณฑ์
(Product Index)
โรงเรียนเยาววิทย์ จังหวัดพังงา ได้พิจารณาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีศักยภาพสำหรับการพัฒนา โดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก ได้แก่ ความง่ายในการดำเนินงาน ความสวยงามและความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ และศักยภาพในการสร้างรายได้ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดเลือกเบื้องต้น ได้แก่ บริการโรงแรมและการท่องเที่ยววิถีเกษตร การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ และการเลี้ยงแพะ
การประเมินผลิตภัณฑ์ด้วยเกณฑ์ “ง่าย งาม เงิน”
บริการโรงแรมและการท่องเที่ยววิถีเกษตร (25/30 คะแนน)
ง่าย (8/10): มีโรงแรมเป็นสถานที่เดิมอยู่แล้ว แต่ยังต้องปรับปรุงให้ได้มาตรฐานและเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
งาม (8/10): ห้องพักสะอาด วิวสวย แต่ยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เช่น โต๊ะนั่งเล่นและโคมไฟ
เงิน (9/10): หากสามารถพัฒนาแพ็กเกจโรงแรมร่วมกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ จะสามารถสร้างรายได้ที่ดี แต่ยังขาดกลยุทธ์การโปรโมทที่มีประสิทธิภาพ
ผักไฮโดรโปนิกส์ (22/30 คะแนน)
ง่าย (7/10): ต้องใช้ความรู้และอุปกรณ์เฉพาะ แต่เมื่อเข้าใจระบบแล้วสามารถพัฒนาได้ง่าย
งาม (8/10): ผักสด สะอาด ปลอดภัย และดึงดูดใจผู้บริโภคที่สนใจสินค้าเกษตรปลอดสารพิษ
เงิน (7/10): มีตลาดรองรับ เช่น โรงเรียน ร้านอาหาร และชุมชน แต่ต้องพัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายเพิ่มเติม
การเลี้ยงแพะ (21/30 คะแนน)
ง่าย (6/10): ต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้เฉพาะทางในการจัดการอาหารและสุขภาพของแพะ
งาม (9/10): แพะเป็นจุดดึงดูดที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
เงิน (6/10): ศักยภาพในการสร้างรายได้จากการขายนมแพะหรือการใช้แพะในกิจกรรมท่องเที่ยวยังมีข้อจำกัด


การสรุปผลการคัดเลือก
จากการประเมิน โรงเรียนเยาววิทย์มีมติเลือกพัฒนาบริการโรงแรมและการท่องเที่ยววิถีเกษตร เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอยู่แล้ว และสามารถต่อยอดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีศักยภาพสูง โรงเรียนมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพัฒนาทางการเกษตร หากสามารถบูรณาการการท่องเที่ยวเข้ากับการเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและสร้าง มูลค่าให้กับโครงการได้มากขึ้น
การสร้างฉันทามติร่วมกัน
การตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ผ่านการประชุมและหารือร่วมกันระหว่างครูและผู้เกี่ยวข้องในโครงการ ทุกฝ่ายเห็นพ้องว่าการพัฒนาบริการโรงแรมจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงไปสู่กิจกรรมอื่น ๆ เช่น การเกษตรเชิงท่องเที่ยว และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากฟาร์มของโรงเรียนได้ในอนาคต การพัฒนาโรงแรมจึงเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างรายได้และเป็นโมเดลการเรียนรู้ที่สามารถขยายผลต่อไปได้

